รู้หรือไม่ “ผู้สูงอายุ” มีสิทธิและสวัสดิการอะไรบ้าง? เปิด 13 สวัสดิการ ที่ต้องรู้

รู้หรือไม่
รู้หรือไม่ "ผู้สูงอายุ" มีสิทธิและสวัสดิการอะไรบ้าง? เปิด 13 สวัสดิการ ที่ต้องรู้

รู้หรือไม่ “ผู้สูงอายุ” มีสิทธิและสวัสดิการอะไรบ้าง? เปิด 13 สวัสดิการ ที่ต้องรู้

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เครือมติชน ร่วมกับองค์กรและหน่วยงานพันธมิตรสุขภาพทั้งภาครัฐและเอกชนจัดงาน Thailand Healthcare 2024 ‘เกษียณสโมสร’ ชวนตรวจสุขภาพฟรี 30 โรงพยาบาลชั้นนำ จัดเต็ม 6 โซนเด่น 4 ไฮไลต์เพื่อสุขภาพ เพื่อฉลองครบรอบปีที่ 16 งานแฟร์สุขภาพอันดับ 1 ของประเทศ ระหว่างวันที่ 27-30 มิถุนายนนี้

น.ส.กอบกุล กวั่งซ้วน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านผู้สูงอายุ กล่าวว่า สถานการณ์ผู้สูงอายุในประเทศไทยที่มีประชากรทั้งประเทศรวม 65 ล้านคน แต่มีผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ซึ่งถือเป็นผู้สูงอายุมากกว่า 13 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ดังนั้น ไทยจึงเป็นสังคมผู้สูงอายุระดับสมบูรณ์

แต่จากการคาดการณ์ พบว่า ในปี พ.ศ. 2576 ไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด ที่มีอัตราผู้สูงอายุมากกว่าร้อยละ 28 ของประชากร ขณะที่จำนวนเด็กเกิดใหม่น้อยลง เฉลี่ยปีละ 500,000 คน ส่งผลให้มีวัยแรงงานน้อยลงเรื่อยๆ

ขณะที่สิทธิและสวัสดิการผู้สูงอายุตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2564 ในมาตรา 11 ได้กำหนดให้ผู้สูงอายุมีสิทธิได้รับการคุ้มครอง การส่งเสริมและการสนับสนุนในด้านต่างๆ รวม 13 เรื่อง ซึ่งแต่ละข้อก็จะมีเงื่อนไขภายใต้ระเบียบต่างๆ ดังนี้

เรื่องที่ 1 การบริการทางการแพทย์เพื่อให้มีช่องทางเฉพาะ อำนวยความสะดวกให้รวดเร็วให้ผู้สูงอายุ

เรื่องที่ 2 การศึกษา การศาสนา และข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต เพื่อให้การเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างต่อเนื่อง จึงมีการจัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุ ที่มีประมาณ 2,000 แห่งทั่วประเทศ

เรื่องที่ 3 การประกอบอาชีพและฝึกอาชีพที่เหมาะสม ทางกรมกิจการผู้สูงอายุ มีความร่วมมือกับหลายหน่วยงานในการสร้างอาชีพให้ผู้สูงอายุ เพื่อให้คนเกษียณได้ใช้ประสบการณ์ทำงานต่อ โดยมีความร่วมมือจากเอกชนด้วย ซึ่งทางบริษัทจะต้องออกแบบการทำงานให้เหมาะสมกับสุขภาพและความสามารถของผู้สูงอายุ

น.ส.กอบกุล กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือ กองทุนผู้สูงอายุ ที่ตั้งขึ้นเพื่อให้ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป กู้ยืมเงินโดยไม่มีดอกเบี้ย โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1. ให้บริการกู้ยืมเงินเพื่อประกอบอาชีพ สำหรับรายบุคคล วงเงินไม่เกิน 30,000 บาท รายกลุ่มที่ไม่น้อยกว่า 5 คน วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท

และ 2. สนับสนุนเงินอุดหนุนโครงการเพื่อส่งเสริมชมรม องค์กร และเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ โครงการขนาดเล็ก วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท ขนาดกลางไม่เกิน 300,000 บาท และขนาดใหญ่วงเงินเกิน 300,000 บาทขึ้นไป ซึ่งสามารถไปขอใช้บริการได้ ถ้าเป็นกรุงเทพมหานคร ติดต่อที่กองทุนผู้สูงอายุ บริเวณสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี และในต่างจังหวัด ติดต่อได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทุกจังหวัด

เรื่องที่ 4 การพัฒนาตนเองและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม การรวมกลุ่มในลักษณะเครือข่ายหรือชุมชน

เรื่องที่ 5 การอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในอาคารสถานที่ ยานพาหนะหรือบริการสาธารณะอื่นๆ ซึ่งส่วนนี้ผู้สูงอายุที่มีฐานะยากจน สามารถขอรับการบริการปรับสภาพสิ่งแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวกได้ เช่น ปรับปรุงบ้าน โดยรัฐบาลมีงบประมาณให้ในการปรับปรุงหลังละไม่เกิน 40,000 บาท เพื่อซื้ออุปกรณ์ในการซ่อมแซมและปรับปรุงบ้านเช่นเดียวกับผู้พิการ ซึ่งใครที่พบเห็นสามารถติดต่อขอรับการสนับสนุนดังกล่าว โดยมีเงื่อนไขคือ ผู้สูงอายุจะต้องมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่ หรือถ้าเป็นการอาศัยอยู่ในบ้านญาติ สามารถให้เจ้าของกรรมสิทธิ์อนุญาตดำเนินการได้

เรื่องที่ 6 การช่วยเหลือด้านค่าโดยสารยานพาหนะตามความเหมาะสม

เรื่องที่ 7 การยกเว้นค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวของรัฐ นอกจากนั้นยังได้รับความสนับสนุนจากภาคเอกชนในสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่ให้ผู้สูงอายุสามารถเข้าชมได้ฟรี

เรื่องที่ 8 การจ่ายเบี้ยยังชีพเป็นรายเดือนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ซึ่งปัจจุบันยังเป็นการจ่ายตามขั้นบันไดตามอายุ อายุ 60-69 ปี 600 บาท/เดือน อายุ 70-79 ปี 700 บาท/เดือน อายุ 80-89 ปี 800 บาท/เดือน และ อายุ 90 ปีขึ้นไป 1,000 บาท/เดือน ส่วนนโยบายจ่าย 1,000 บาทถ้วนหน้า ยังอยู่ในส่วนของการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี

เรื่องที่ 9 การสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณี จำนวน 3,000 บาท โดยต้องเป็นผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น

เรื่องที่ 10 การจัดที่พักอาศัย อาหารและเครื่องนุ่งห่มให้ตามความจําเป็นอย่างทั่วถึง

เรื่องที่ 11 การให้คำแนะนํา ปรึกษาดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องในทางคดี หรือในทางการแก้ไขปัญหาครอบครัว

เรื่องที่ 12 การช่วยเหลือผู้สูงอายุซึ่งได้รับอันตรายจากการถูกทารุณกรรมหรือถูกแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือถูกทอดทิ้ง

และ เรื่องที่ 13 เรื่องอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการประกาศ